เกิดอะไรขึ้นในตลาดเงิน?
สวัสดีค่ะ จูนนะคะ สัปดาห์นี้ตลาดการเงินทั่วโลกคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการอ่อนค่าลงเล็กน้อย สวนทางกับเงินยูโรที่กลับมาได้รับความนิยมและแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยหลักมาจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่เริ่มคลี่คลายลงบ้าง ทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับทุกคนกำลังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้
ก่อนหน้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นชั่วคราวจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน แต่นักวิเคราะห์จาก ING มองว่าตลาดไม่ได้เชื่อมั่นในดอลลาร์ระยะยาวมากนัก
"นี่เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจของตลาดต่อดอลลาร์ในขณะนี้ ดังนั้นแม้แต่เหตุการณ์ที่เป็นบวกอย่างชัดเจนสำหรับดอลลาร์ ก็ไม่สามารถยับยั้งการสร้างสถานะขายดอลลาร์ที่เราสังเกตเห็นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาได้"
ทั่วโลกจับตาการประชุมธนาคารกลาง
สัปดาห์นี้ไม่ได้มีแค่เฟดเท่านั้น แต่ยังมีธนาคารกลางยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งเตรียมประชุมนโยบายการเงิน ทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของแต่ละแห่งจะส่งผลต่อทิศทางค่าเงินโดยตรง
โดยตลาดคาดการณ์กันว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่จะจับตาท่าทีต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันและเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ขณะที่สกุลเงินยูโรยังคงแข็งแกร่ง โดย ข้อมูลล่าสุด แสดงให้เห็นว่าค่าเงินยูโรเติบโตขึ้นมากกว่า 11% ในปีนี้
มีผลกับเรายังไง?
ความเคลื่อนไหวของสกุลเงินหลักเหล่านี้ส่งผลให้ตลาดค่าเงินโดยรวมมีความผันผวนสูงขึ้นในระยะสั้น ใครที่ทำธุรกิจนำเข้าส่งออก หรือวางแผนเดินทางไปต่างประเทศ อาจเห็นอัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์นี้
สำหรับนักลงทุนที่ติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด การตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ที่ใช้บริการเป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถเช็กใบอนุญาตและความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ที่ TrustFinance เพื่อประกอบการตัดสินใจท่ามกลางสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ
