หุ้นพลังงาน-กลาโหมพุ่ง รับความตึงเครียดอิสราเอล-อิหร่าน
ตลาดหุ้นทั่วโลกจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้หุ้นบางกลุ่มปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังคงดำเนินอยู่ ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดการลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับพลังงานและยุทโธปกรณ์ทางการทหาร
ราคาพลังงานเป็นดัชนีชี้วัดแรกที่ตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคยพุ่งขึ้นไปเกือบ 6% ก่อนจะปรับตัวลดลงมาบ้าง ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ส่งผลดีโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง Exxon Mobil, Chevron และ ConocoPhillips ที่นักลงทุนคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มกลาโหมและผู้ผลิตอาวุธก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากความขัดแย้งที่ยกระดับขึ้นทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ารัฐบาลทั่วโลกอาจเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร หุ้นที่น่าจับตาคือ Lockheed Martin, Northrop Grumman และ RTX
ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่นั้น แต่ยังลามไปถึงกลุ่มการขนส่งทางเรือ ที่อาจเห็นความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงเส้นทางและความปลอดภัยในการเดินเรือ บริษัทอย่าง Maersk และ Hapag-Lloyd ในยุโรปต่างก็ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นสายการบินและกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นหมายถึงต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นโดยตรง ทำให้กำไรของสายการบินอย่าง Delta, United และ American Airlines อาจลดลง และผู้คนอาจชะลอการเดินทาง
โดยสรุป สถานการณ์นี้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในตลาด หุ้นพลังงานและกลาโหมได้รับอานิสงส์เชิงบวก ขณะที่กลุ่มสายการบินและการท่องเที่ยวต้องเผชิญกับแรงกดดัน ซึ่งเป็นภาพสะท้อนระยะสั้นที่นักลงทุนทั่วไปควรติดตามอย่างใกล้ชิดตามรายงานล่าสุดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาด
Sources
1. https://th.investing.com/news/stock-market-news/article-93CH-388786









