วางแผนเกษียณฉบับจับมือทำ: สบายใจไร้กังวล มีเงินใช้ตอนแก่แน่นอน

A

Anonymous

มิ.ย. 16, 2025

2 min read

7

Blog image

เคยไหมครับ? ทำงานมาหลายปี เงินเดือนก็ขึ้นทุกปี แต่พอเหลือบดูเงินในบัญชีทีไร ใจหายวาบทุกที... แล้วอนาคตตอนแก่ล่ะ? ภาพตัวเองตอนอายุ 60 ปี จะเป็นแบบไหน? จะมีเงินใช้สบายๆ หรือต้องทำงานต่อไปไม่หยุดหย่อน?

คำถามเหล่านี้อาจเคยผุดขึ้นมาในใจของใครหลายคน และบ่อยครั้งเราก็ปัดมันทิ้งไปเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้ว “การวางแผนเกษียณ” ไม่ใช่เรื่องของคนใกล้วัย 60 แต่มันคือเรื่องของ “เราทุกคน” ในวันนี้ ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งสบายในวันหน้ามากขึ้นเท่านั้น บทความนี้จะมาเป็นเพื่อนคู่คิด ชวนคุณมาจับมือทำแผนเกษียณแบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำตามได้ เพื่อให้เราทุกคนมี “เงินใช้ตอนแก่” อย่างมีความสุขและไร้กังวลครับ



ทำไมต้องรีบ? พลังของ “ดอกเบี้ยทบต้น” เวทมนตร์ทางการเงินที่คนเริ่มก่อนได้เปรียบ

เคยได้ยินคำว่า “ดอกเบี้ยทบต้น” ไหมครับ? อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่ามันคือ “สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก” พูดง่ายๆ ก็คือ การที่ดอกเบี้ยที่เราได้รับ ไม่ได้คำนวณจากเงินต้นเริ่มต้นเท่านั้น แต่ยังคำนวณจากดอกเบี้ยของงวดก่อนๆ ที่สะสมมาด้วย ทำให้เงินของเราเติบโตแบบก้าวกระโดด

ยกตัวอย่างง่ายๆ: นาย A เริ่มออมเงินเดือนละ 1,000 บาท ตั้งแต่อายุ 25 ปี กับ นาย B ที่เริ่มออมเงินเท่ากันตอนอายุ 35 ปี ในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี พอถึงอายุ 60 ปี นาย A ที่เริ่มก่อนแค่ 10 ปี จะมีเงินเก็บมากกว่านาย B หลายแสนบาท! นี่แหละครับพลังของการเริ่มต้นเร็ว



4 สเต็ปง่ายๆ สู่แผนเกษียณสุดปัง (Actionable Steps to a Great Retirement Plan)

การวางแผนเกษียณไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่คิดครับ เราสามารถแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลักๆ ที่ทำตามได้ไม่ยากเลย



Step 1: ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน (Set Clear Goals)

tmp-1-o35QDdOH07Ec-.png

ลองหลับตาแล้วจินตนาการถึงชีวิตหลังเกษียณที่คุณต้องการดูครับ... อยากเที่ยวรอบโลก? อยากเปิดร้านกาแฟเล็กๆ? หรืออยากใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว? การมีภาพที่ชัดเจนจะช่วยให้เรากำหนดเป้าหมายทางการเงินได้ง่ายขึ้น

  • คุณอยากเกษียณตอนอายุเท่าไหร่? 55, 60, หรือ 65 ปี?
  • คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุกี่ปี? (อาจจะเผื่อไว้ที่ 85-90 ปี)
  • คุณต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่? หลักการง่ายๆ ที่แนะนำกันคือประมาณ 70% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ เพราะตอนนั้นเราอาจจะไม่มีค่าเดินทางไปทำงาน หรือค่าใช้จ่ายเรื่องลูกแล้ว แต่จะมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเข้ามาแทน


Step 2: สำรวจสถานะการเงินปัจจุบัน (Assess Your Current Finances)

tmp-1-j4NRu03pkGDP-.png

ถึงเวลาเปิดแอปธนาคาร สมุดบัญชี และเอกสารต่างๆ มาดูกันอย่างตรงไปตรงมาครับว่าตอนนี้เรายืนอยู่จุดไหน

  • สินทรัพย์ที่มี: เงินฝาก, เงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนรวม, หุ้น, ประกันสะสมทรัพย์, อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ รวมทั้งหมดมีมูลค่าเท่าไหร่?
  • หนี้สินคงค้าง: หนี้บ้าน, หนี้รถ, หนี้บัตรเครดิต, หนี้ส่วนบุคคล เหลืออีกเท่าไหร่?

การรู้สถานะปัจจุบันจะทำให้เราเห็นภาพรวมและรู้ว่าเราต้องพยายามอีกมากน้อยแค่ไหนครับ



Step 3: คำนวณ “ตัวเลขมหัศจรรย์” ที่ต้องมี (Calculate Your 'Magic Number')

เมื่อรู้เป้าหมายและสถานะปัจจุบันแล้ว ก็มาคำนวณยอดเงินทั้งหมดที่ต้องมี ณ วันเกษียณกันครับ

สูตรง่ายๆ: (ค่าใช้จ่ายที่อยากได้ต่อเดือน x 12 เดือน) x จำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตหลังเกษียณ = เงินเก็บที่ต้องมี

ตัวอย่าง: อยากใช้เดือนละ 30,000 บาท เกษียณตอน 60 และคาดว่าจะมีชีวิตถึง 85 ปี (เท่ากับ 25 ปี) (30,000 x 12) x 25 = 9,000,000 บาท

*หมายเหตุ: ตัวเลขนี้ยังไม่ได้รวม “อัตราเงินเฟ้อ” ซึ่งทำให้มูลค่าเงินลดลงทุกปี ในการวางแผนจริงจังควรนำอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 2-3% ต่อปีเข้ามาคำนวณด้วย เพื่อให้ได้เป้าหมายที่แท้จริง*



Step 4: ลงมือสร้างแผนปฏิบัติการ! (Take Action!)

นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดครับ! เมื่อมีเป้าหมายแล้วก็ต้องลงมือทำ โดยมีเครื่องมือทางการเงินหลากหลายที่ช่วยเราได้

  • จัดการรายจ่าย เพิ่มเงินออม: ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อหา “รูรั่ว” ที่ไม่จำเป็น และตั้งเป้า “ออมก่อนใช้” อย่างน้อย 10-20% ของรายได้ทุกเดือน
  • ใช้ประโยชน์จากสวัสดิการ: หากเป็นพนักงานบริษัท “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” (PVD) คือเครื่องมือที่ดีที่สุด เพราะมีนายจ้างช่วยสมทบ เหมือนได้เงินเพิ่มฟรีๆ! พยายามส่งให้เต็มเพดานเท่าที่ไหว
  • ลงทุนเพื่อเติบโตและลดหย่อนภาษี: กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เป็นตัวช่วยชั้นดีในการสร้างวินัยการลงทุนระยะยาว แถมยังได้ลดหย่อนภาษีอีกด้วย
  • กระจายความเสี่ยงให้เหมาะสม: อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียว ควรจัดพอร์ตการลงทุนให้มีทั้งสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ (เงินฝาก, ตราสารหนี้) และสินทรัพย์เสี่ยงสูง (หุ้น, กองทุนหุ้น) ตามระดับความเสี่ยงที่เรารับได้และช่วงอายุของเรา
  • สร้างหลักประกัน: “ประกันชีวิตแบบบำนาญ” เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยการันตีว่าเราจะมีเงินใช้เป็นรายเดือนอย่างสม่ำเสมอหลังเกษียณ


Case Studies: แผนเกษียณสำหรับทุกคน

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถเริ่มวางแผนเกษียณได้

  • มนุษย์เงินเดือน (อายุ 30): เป้าหมายหลักคือการใช้ประโยชน์จาก PVD ให้เต็มที่ ใส่เงินสมทบในอัตราสูงสุดที่ทำได้ และพิจารณาลงทุนใน RMF/SSF เพิ่มเติมเพื่อลดหย่อนภาษีและเร่งสร้างพอร์ตให้เติบโต
  • ฟรีแลนซ์ (อายุ 35): ไม่มี PVD ทำให้ต้องมีวินัยสูงมาก ควรเปิดบัญชีลงทุนประจำและตั้งโอนเงินอัตโนมัติทุกเดือนเพื่อลงทุนใน RMF เพื่อสร้างวินัยและรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี พร้อมกับจัดพอร์ตลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง
  • คนที่มีหนี้ (อายุ 40): จัดลำดับความสำคัญในการ “ปลดหนี้” ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิตก่อน แต่ไม่ควรรอให้หนี้หมดแล้วค่อยออม ควรเริ่มออมเงินจำนวนเล็กน้อย song song กันไป เพื่อสร้างนิสัย และเมื่อปลดหนี้ก้อนใหญ่ได้แล้ว ให้นำเงินที่เคยผ่อนหนี้นั้นมาโปะเข้าแผนการลงทุนเพื่อเกษียณทันที


เปลี่ยน Mindset สู่ความมั่นคงทางการเงิน

การวางแผนเกษียณไม่ใช่การอดมื้อกินมื้อในวันนี้ แต่มันคือการ “ออกแบบ” อิสรภาพทางการเงินในวันหน้า คือการซื้อความสบายใจให้ตัวเองในวัยที่ควรจะได้พักผ่อนอย่างแท้จริง


“การวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับวันพรุ่งนี้ คือการทำวันนี้ให้ดีที่สุด”

อย่ารอให้พร้อม อย่ารอให้มีเงินเยอะ เริ่มต้นจากจุดที่คุณยืนอยู่ด้วยเงินเท่าที่มี แล้วค่อยๆ สร้างมันให้เติบใหญ่ขึ้น เส้นทางสู่การเกษียณอย่างมีความสุขอาจเป็นเหมือนการวิ่งมาราธอน แต่ทุกก้าวเล็กๆ ที่คุณเริ่มตั้งแต่วันนี้ จะนำคุณเข้าใกล้เส้นชัยได้อย่างแน่นอนครับ



อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม

เพื่อให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการสร้างความมั่งคั่งที่มากขึ้น ลองศึกษาเพิ่มเติมจากบทความเหล่านี้ได้เลยครับ:



Sources

เขียนโดย

A

Anonymous


Is this article helpful for you?

0

0


Related Articles