ก้าวแรกสู่โลก Forex: มากกว่าแค่การซื้อขาย
ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการเทรด Forex ครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่เพิ่งก้าวเข้ามาในวงการนี้ อาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในการทำกำไร แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะสับสนกับคำศัพท์และค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ดูซับซ้อนไปหมด ในฐานะนักวิเคราะห์ ผมอยากจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจพื้นฐานที่สำคัญเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน เหมือนเพื่อนที่คอยแนะนำกัน รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิดครับ
ก่อนที่เราจะไปถึงหัวข้อหลักอย่าง Swap เรามาปูพื้นฐานกันก่อนสักเล็กน้อยกับคำศัพท์ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเจอ เริ่มจาก Spread หรือส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย ลองนึกภาพตามง่ายๆ เหมือนเราไปร้านทอง จะมีราคารับซื้อกับราคาขายซึ่งไม่เท่ากัน ส่วนต่างตรงนั้นแหละครับคือ Spread ในโลกของ Forex ก็เช่นเดียวกัน มันคือต้นทุนแรกที่คุณต้องจ่ายเมื่อเปิดออเดอร์
ต่อมาคือ Leverage หรือเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มพลังในการเทรด ทำให้เราสามารถเปิดออเดอร์ที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนจริงในบัญชีได้ เปรียบเสมือนการยืมพลังจากโบรกเกอร์เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ามันมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน และสุดท้ายคือ ECN หรือ Electronic Communication Network ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของโบรกเกอร์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายของเราเข้าไปในตลาดกลางโดยตรง ทำให้ได้ราคาที่ดีและสเปรดที่แคบกว่า แต่ก็มักจะมีค่าคอมมิชชันแยกต่างหาก
บทเรียนราคาแพง: เรื่องเล่าจากค่าธรรมเนียมที่ถูกมองข้าม
ผมมีเรื่องราวของเทรดเดอร์มือใหม่คนหนึ่งชื่อคุณนนท์มาเล่าให้ฟังครับ คุณนนท์ศึกษาการเทรดมาสักพักและตัดสินใจเข้าออเดอร์ซื้อคู่เงิน EUR/USD เพราะมั่นใจในทิศทางของกราฟมาก เขาถือออเดอร์นั้นไว้สองสามวัน และในที่สุดราคาก็วิ่งขึ้นไปถึงจุดที่เขาตั้งใจไว้จริงๆ คุณนนท์ปิดออเดอร์ด้วยความดีใจที่ได้กำไรตามเป้า
แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเขากลับมาตรวจสอบยอดเงินในบัญชี กลับพบว่ากำไรที่ได้นั้นน้อยกว่าที่คำนวณไว้พอสมควร เงินส่วนหนึ่งหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนั้นเองที่คุณนนท์เริ่มสับสนและกังวลใจ
"ผมกำไรนะ แต่ทำไมเงินในพอร์ตมันหายไปไหน? ผมโดนโกงหรือเปล่า?"
คำถามของคุณนนท์เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์มือใหม่หลายคนเคยเจอ และคำตอบก็คือ เขาไม่ได้โดนโกงครับ แต่เขาลืมคำนวณต้นทุนแฝงที่สำคัญตัวหนึ่งไป นั่นก็คือ Swap หรือ ค่าถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราถือสถานะการซื้อขายข้ามวันนั่นเอง
เจาะลึก Swap: ค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า 'ค่าถือออเดอร์ข้ามคืน'
Swap คืออะไรกันแน่?
Swap คือผลต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เงินที่คุณเทรดครับ เมื่อคุณเปิดออเดอร์ซื้อขาย Forex เท่ากับว่าคุณกำลังยืมสกุลเงินหนึ่งเพื่อมาซื้ออีกสกุลเงินหนึ่ง ดังนั้นจึงเกิดการคิดดอกเบี้ยขึ้น หากคุณถือออเดอร์ข้ามวันผ่านช่วงเวลาที่ตลาดปิดทำการ หรือที่เรียกว่า Rollover โบรกเกอร์จะทำการคิดค่า Swap นี้กับบัญชีของคุณ
ค่า Swap อาจจะเป็นบวกหรือลบก็ได้ ขึ้นอยู่กับคู่เงินและทิศทางที่คุณเทรด หากคุณซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินที่คุณขาย คุณอาจจะได้รับ Swap เป็นบวก หรือได้เงินเข้าพอร์ตเล็กน้อย แต่ในทางกลับกัน หากคุณซื้อสกุลเงินที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า คุณก็จะต้องจ่าย Swap เป็นลบ หรือเสียเงินนั่นเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ย่อมส่งผลโดยตรงต่ออัตราดอกเบี้ยและค่า Swap ดังจะเห็นได้จาก รายงานการคาดการณ์นโยบายการเงินของออสเตรเลีย ที่มีการประเมินทิศทางเงินเฟ้อในปี 2025 ซึ่งส่งผลต่อค่าเงิน AUD โดยตรง
ทำไมบางวันถึงโดนหัก Swap สามเท่า
อีกหนึ่งข้อสงสัยยอดฮิตคือ ทำไมในบางวัน โดยเฉพาะวันพุธ ค่า Swap ถึงถูกคิดเป็นสามเท่า หรือที่เรียกว่า Triple Swap นั่นก็เพราะตลาด Forex ปิดทำการในวันเสาร์และอาทิตย์ ทำให้ไม่มีการคิดค่า Swap ในสองวันนั้น โบรกเกอร์จึงรวบยอดมาคิดในวันพุธล่วงหน้าเพื่อชดเชยวันหยุดสุดสัปดาห์นั่นเอง นอกจากนี้ วันหยุดนักขัตฤกษ์ของประเทศต่างๆ ก็อาจส่งผลต่อตารางการซื้อขายและการคำนวณ Swap ได้เช่นกัน เทรดเดอร์จึงควรติดตามประกาศจากโบรกเกอร์อยู่เสมอ อย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงตารางการซื้อขายในช่วงวันหยุด ที่โบรกเกอร์ต้องแจ้งให้นักลงทุนทราบล่วงหน้า
โบรกเกอร์ที่แตกต่าง กับค่า Swap ที่ไม่เท่ากัน
ประเภทของโบรกเกอร์ส่งผลโดยตรงต่อ ค่าธรรมเนียมฟอเร็กซ์ที่คุณต้องรู้ รวมถึงค่า Swap ด้วย โบรกเกอร์แบบ Market Maker อาจเสนอค่าสเปรดคงที่ที่ดูน่าดึงดูดใจ แต่ค่า Swap อาจไม่ดีเท่าที่ควร ในขณะที่โบรกเกอร์แบบ ECN หรือ STP ที่ให้คุณเข้าถึงตลาดโดยตรง มักจะมีค่า Swap ที่อ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร ทำให้มีความโปร่งใสมากกว่า นอกจากนี้ บางโบรกเกอร์ยังมีบัญชีประเภท Swap-Free หรือบัญชีอิสลาม สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมการจัดการรูปแบบอื่นมาทดแทน คุณสามารถหาข้อมูล 10 โบรกเกอร์ Forex ที่มีบัญชี Swap Free ได้เพื่อเปรียบเทียบเงื่อนไขต่างๆ
การเลือกโบรกเกอร์จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่ดูเรื่องโปรโมชันหรือสเปรดที่ต่ำเท่านั้น แต่ต้องเจาะลึกลงไปถึงรายละเอียดของค่าธรรมเนียมทั้งหมด รวมถึงค่า Swap ด้วย โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือมักจะให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เช่น การให้ ข้อมูลวันหมดอายุและเวลา Rollover ของสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้นักเทรดวางแผนได้อย่างแม่นยำ
ในจุดนี้เองที่แพลตฟอร์มอย่าง TrustFinance เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น TrustFinance รวบรวมข้อมูลเชิงลึกของโบรกเกอร์ต่างๆ ทั้ง TrustScore ที่ประเมินความน่าเชื่อถือ ใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล และที่สำคัญคือรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของโบรกเกอร์แต่ละแห่ง รวมถึงนโยบายเรื่องค่า Swap ได้อย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
สรุป: ความรู้คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดในสนามเทรด
เรื่องราวของคุณนนท์เป็นเครื่องย้ำเตือนที่ดีว่า การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่รอบด้าน การมองข้ามต้นทุนแฝงอย่างค่า Swap อาจทำให้กำไรของคุณหดหายไปโดยไม่รู้ตัว หรืออาจทำให้แผนการเทรดของคุณผิดพลาดได้เลยทีเดียว
ดังนั้น การศึกษาหาข้อมูลจึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน การเข้าใจว่า Spread, Leverage และ Swap ทำงานอย่างไร รวมถึง วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ใช่สำหรับสไตล์การเทรดของคุณ จะเป็นรากฐานที่มั่นคงซึ่งนำไปสู่การเทรดที่ยั่งยืน
เริ่มต้นเส้นทางการเป็นเทรดเดอร์ที่รอบรู้ได้วันนี้ ด้วยการค้นคว้าข้อมูลโบรกเกอร์ เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม และอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงได้ที่ TrustFinance เพื่อให้ทุกการตัดสินใจลงทุนของคุณมั่นคงและปลอดภัยที่สุดครับ
Sources
global.fxoro.com/th/trading-info/
